วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ME จับมือ นิตยสาร Esquire จัดงาน Money Grows เปิดมุมมองใหม่ไขเคล็ดลับการออมให้งอกเงย

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 27 พฤษภาคม 2557 14:45:50



กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--ชมฉวีวรรณ
นางสาวรัชดา เสริมศิลปกุล ผู้อำนวยการการตลาดและการขาย ME by TMB (ที่ 3 จากซ้าย) พร้อมด้วย นายภาณุ บุรุษรัตนพันธุ์ บรรณาธิการนิตยสาร Esquire (ที่ 5 จากซ้าย) จัดกิจกรรมเสวนาจิบกาแฟยามบ่ายในหัวข้อ “Money Grows ไขเคล็ดลับการวางแผนการเงินและทางเลือกใหม่สำหรับการออมให้งอกเงยกับ ME by TMB” โดยได้รับเกียรติจากบรรณาธิการนิตยสารและนักเขียนชื่อดัง วรรณศิริ ศรีวราธนบูลย์ (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การออมเงิน ณ ร้านคอฟฟี่ คลับ เมื่อเร็วๆ นี้

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/prg/1906285

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คุณรัชดา เสริมศิลปกุล จาก ME by TMB

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 21 พฤษภาคม 2557 15:47:58 น.

ข่าวซุบซิบ: คุณรัชดา เสริมศิลปกุล จาก ME by TMB

              กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--Chomchaviwan
แฮปปี้กว่าใครในตอนนี้เห็นจะหนีไม่พ้น ผู้บริหารคนเก่งแห่ง ME by TMB คุณรัชดา เสริมศิลปกุล ที่ล่าสุดมีคนแห่มาเปิดบัญชี ME กันล้นหลามเกินเป้าไปเรียบร้อยใน Money Expo ที่ผ่านมา ก็แหม ให้ดอกเบี้ยสูง 3% โดนใจซะขนาดนี้ เป็นใครก็คงไม่อยากพลาดหรอกค่า! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ME Call Center 0-2502-0000

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/prg/1902358

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

“ความเป็นเมือง” พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค


20 พฤษภาคม 2557



       ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ชี้ เทรนด์ความเป็นเมืองกำลังขยายตัวสู่หลายจังหวัดในภูมิภาค  สามารถกระจายรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่  นับเป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กว้างขึ้น และเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ภูมิภาค

จากการขยายตัวของเศรษฐกิจภูมิภาคซึ่งเป็นที่สนใจในขณะนี้ ซึ่งสามารถรับรู้ได้จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ของประชาชนในภูมิภาค ทำให้กำลังซื้อของประชาชนสูงขึ้น การบริโภค การพักอาศัยและรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันใกล้เคียงกับประชาชนเขตกรุงเทพฯ มากขึ้น นั่นคือ สังคมมี “ความเป็นเมือง” (Urbanization) มากขึ้นนั่นเอง ยิ่งเศรษฐกิจในพื้นที่ดีต่อเนื่อง ย่อมทำให้รายได้ประชาชนเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ความเป็นเมืองก็จะเพิ่มขึ้นตามมาด้วย จากข้อมูลเราพบว่า จังหวัดที่มีจุดเด่นทางด้านเศรษฐกิจ จะมีความเป็นเมืองเร็วกว่าจังหวัดอื่นๆ จุดเด่นที่สำคัญคือ

จังหวัดท่องเที่ยว : (ภูเก็ต เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี กระบี่) เศรษฐกิจมีความเป็นเมืองได้เร็วที่สุด เห็นได้จากปริมาณการค้าจังหวัดกลุ่มนี้เติบโตเฉลี่ย 5.44% ต่อปี เพราะเกิดการจ้างงานกระจายรายได้เป็นวงกว้าง เกิดธุรกิจจำนวนมากจากการท่องเที่ยว รายได้ประชาชนจึงเพิ่มขึ้นเร็ว

จังหวัดฐานการผลิต : (ชลบุรี ระยอง อยุธยา ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระบุรี) ปริมาณการค้าเติบโตเฉลี่ย 5.37% ต่อปี จังหวัดกลุ่มนี้มีนิคมอุตสาหกรรมและสาธารณูปโภคพื้นฐาน จึงเกิดการจ้างงานจำนวนมากในพื้นที่ การเติบโตของการค้าอ่อนไหวตามปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ
                                   
จังหวัดการค้าแถบชายแดน : (สงขลา อุดรธานี หนองคาย อุบลราชธานี เชียงราย) เนื่องจากความได้เปรียบที่ตั้ง ทำให้เกิดการค้า การท่องเที่ยวและการลงทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจังหวัดกลุ่มนี้ ปริมาณการค้าเติบโต 4.37%ต่อปี และน่าจะเติบโตต่อเนื่องจากเศรษฐกิจเพื่อนบ้านที่ยังมีทิศทางสดใส            
         
จังหวัดการค้าและการขนส่ง : (นครราชสีมา ขอนแก่น นครสวรรค์ พิษณุโลก) เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ มีกำลังซื้อจากจังหวัดขนาดเล็กที่อยู่รายรอบช่วยหนุนเศรษฐกิจจังหวัดกลุ่มนี้ ปริมาณการค้าขยายตัวเฉลี่ย 4.06% ต่อปี การเติบโตของการค้าอ่อนไหวตามปัจจัยในประเทศเป็นหลัก

ขณะที่เขต กทม.และปริมณฑล มีการค้าเติบโตเฉลี่ย 4.22% ต่อปี ทั้งสี่กลุ่มจังหวัดจึงมีความเป็นเมืองเร็วมาก และบางจังหวัดอาจมีจุดเด่นหลายด้าน เช่น ชลบุรี ระยอง อยู่ในกลุ่มจังหวัดฐานการผลิต และยังมีการท่องเที่ยวเป็นจุดเด่นอีกด้วย จึงทำให้การค้าขายคึกคักกว่าจังหวัดอื่น ระดับของความเป็นเมืองจึงเกิดเร็วขึ้นตามรายได้ของประชาชน กลุ่มที่ความเป็นเมืองใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ คือ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง สงขลา นครราชสีมา ขอนแก่น จังหวัดที่ก้าวสู่ความเป็นเมืองมากขึ้นคือ สุราษฎร์ธานี กระบี่ อยุธยา สระบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี อุดรธานี หนองคาย อุบลราชธานี เชียงราย นครสวรรค์ พิษณุโลก

การก้าวสู่ความเป็นเมือง ถือเป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและไลฟ์สไตล์ เนื่องจากประชาชนมีกำลังซื้อสูงขึ้น จึงต้องการสินค้าและบริการที่ยกระดับคุณภาพชีวิต และความสะดวกสบายมากขึ้นนั่นเอง ธุรกิจที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือ ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ที่จะมีรูปแบบของร้านค้าทันสมัย เช่น ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า อาหารและเครื่องดื่ม ดังนั้นธุรกิจ SME ในพื้นที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นและความเสี่ยงจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นพร้อมๆ กัน การเรียนรู้ความต้องการของผู้บริโภคและตอบสนองอย่างตรงจุด จะช่วยลดความเสี่ยงจากการแข่งขันที่รุนแรงจากธุรกิจขนาดใหญ่ได้และได้รับผลบวกเต็มๆ จากเทรนด์ ”ความเป็นเมือง”


อ้างอิง : https://www.tmbbank.com/newsroom/news-details.php?id=556

คลังนัดถกพยุงเศรษฐกิจชะลอ หวังกกต.อนุมัติทำงบฯ58 ทีเอ็มบีหั่นจีดีพี

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- เสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2557 00:00:06 น.




         บางเขน * "ทนุศักดิ์" จ่อถกส่วนราชการ-แบงก์รัฐ หาแนวทางพยุงเศรษฐกิจช่วงที่เหลือ หลังโดนพิษการเมือง เลือกตั้งยังไม่ได้ รับต้องทำงานหนักขึ้น ยันไม่ยอมให้มีการปรับลดเป้าหมายใดๆ ลงแม้แต่ตัวเดียว สศค.โยนสำนักงบฯ ยื่น กกต.เคาะทำงบฯ 58 ได้หรือไม่ TMB หั่นจีดีพีอีกรอบเหลือโต 2%

นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รักษาการ รมช.การคลัง เปิดเผยว่า ในการหารือร่วมกับอธิบดี กรมต่างๆ รวมถึงผู้บริหารกระ ทรวงการคลังในวันที่ 19 พ.ค.นี้ โจทย์ใหญ่ในการหารือคือ การ ระดมสมองหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง รวมถึงธนาคารเฉพาะกิจ ของรัฐในการต่อสู้วิกฤติเศรษฐ กิจในปี 2557 เพื่อประคับประ คองเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้

นอกจากนี้ จะหารือถึงการจัดทำงบประมาณ 2558 ว่าจะดำเนินการได้อย่างไรในช่วงรัฐบาลรักษาการ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ในเดือน ก.ค.หรือไม่ โดยกระทรวงการคลังต้องเตรียมความพร้อมไว้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในอนาคต เพราะถ้างบประมาณปี 2558 ต้องล่าช้ากว่านี้ จะมีปัญหาหนักต่อเศรษฐกิจในปี 2558

"ทุกวันนี้เศรษฐกิจช็อก และชะงักงันจากปัญหาการ เมือง หน่วยงานของรัฐที่มีอยู่ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และ องค์กรของรัฐ ต้องทำงานอย่างเต็มที่ และที่สำคัญต้องทำงานหนักกว่าเดิม ต้องลุยการทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งผมจะไม่ยอมให้มีการลดเป้าหมายใดๆ ลง รวมถึงเป้าหมายการจัดเก็บที่กำหนดไว้ 2.275 ล้านล้านบาท ต้องทำให้ได้ตามนั้น" นายทนุศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ยอมรับว่าในการ จัดทำงบประมาณปี 2558 งานนโยบายบางอย่างอาจจะมีปัญหา ในข้อกฎหมาย แต่เท่าที่ดูกฎ หมาย ไม่ได้บอกว่าจัดทำงบไม่ได้เลย แต่มีห้ามที่ต้องระวัง 2 ประการคือ ห้ามผูกพันรัฐบาลในอนาคต และห้ามนำไปหาเสียง ซึ่งมองว่าการจัดทำงบปี 2558 ไม่ใช่การนำไปหาเสียง แต่เป็นการช่วยเหลือประชาชน

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ต้อง การให้สำนักงบประมาณทำหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อถามถึงความชัดเจนและอนุมัติให้รัฐบาลรักษาการสามารถจัดทำงบประมาณปี 2558 ได้ เพื่อให้มีเม็ดเงินจากส่วนราชการมาใช้อัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงจากปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อ ทำให้ภาครัฐไม่สามารถออกมาตรการพิเศษมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ และไม่มีงบลงทุนจากภาครัฐในโครงการใหม่ ส่งผลต่อการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว

ด้านศูนย์วิเคราะห์เศรษฐ กิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงจาก 2.9% เหลือ 2.0% จากปัจจัยลบ ความไม่แน่นอนทางการเมืองบั่นทอนการใช้จ่าย โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน

อย่างไรก็ดี ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ในขณะที่ความน่าจะเป็นที่เศรษฐ กิจไทยจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือจีดีพีหดตัวติดต่อกัน 2 ไตร มาส ยังคงมีความเป็นไปได้ต่ำ ภายใต้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี และเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นบ้าง แต่ยังไม่น่ากังวล อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่จะถูกตรึง ไว้ที่ระดับค่อนข้างต่ำ และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเอื้อต่อผู้ส่งออก.

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/tpd/1899093

วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

TMBAM ชวน ‘จัดทัพลงทุน’ สู่ญี่ปุ่นและยุโรป คว้าโอกาสจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของทั้งสองภูมิภาค

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 14 พฤษภาคม 2557 14:11:11 น.

                             TMBAM ชวน ‘จัดทัพลงทุน’ สู่ญี่ปุ่นและยุโรป คว้าโอกาสจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของทั้งสองภูมิภาค


กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--การกองทุนทหารไทย
           ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า “ในโลกยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ อย่างรวดเร็ว ในขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศยังมีความผันผวนอยู่มาก มุมมองการลงทุนในปีนี้ของ TMBAM จึงเป็นการชวนนักลงทุนไทยให้จัดทัพลงทุน โดยการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงและคว้าโอกาสเพิ่มของผลตอบแทนด้วยการสร้างมุมมองแบบนักลงทุนระดับโลก (Global Investor) ให้มากขึ้น โดยนักลงทุนจะยังลงทุนในประเทศอยู่ การกระจายการลงทุนบางส่วนไปยังภูมิภาคที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็งต่อเนื่อง อาทิ ญี่ปุ่น และ ยุโรป ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในปัจจุบัน”
“จากแรงตอบรับที่ดีของกองทุนหุ้นญี่ปุ่นและยุโรปของเราที่เสนอขายไปเมื่อช่วงต้นปี ผนวกกับแนวโน้มการฟื้นตัวที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องของทั้ง 2 ภูมิภาค TMBAM จึงขอนำเสนอกองทุนหุ้นในภูมิภาคดังกล่าวอีกครั้ง ได้แก่
1. ‘กองทุนเปิดทหารไทย Japan Equity Trigger 10%(2)’ ที่เน้นลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นผ่านทางกองทุนหลัก Nikkei 225 Exchange Traded Fund ซึ่งบริหารจัดการแบบเชิงรับ (Passive) โดย Nomura Asset Management
2. ‘กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท’ ที่เน้นลงทุนในหุ้นยุโรปผ่านทางกองทุนหลัก Franklin European Growth Fund ซึ่งบริหารจัดการแบบเชิงรุก (Active) โดย Franklin Templeton Investments
3. ‘กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท เพื่อการเลี้ยงชีพ’ ที่มีนโยบายการลงทุนเหมือน ‘กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท’ พร้อมบวกด้วยสิทธิประโยชน์จากการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้นักลงทุนสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้
ทั้ง 3 กองทุนมีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศไม่น้อยกว่า 90% ตลอดเวลา และกำหนดเปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 12 - 20 พฤษภาคม 2557 นี้”
ดร.สมจินต์ กล่าวต่อว่า “ สำหรับ ‘กองทุนเปิดทหารไทย Japan Equity Trigger 10%(2)’ นั้น เหมาะสำหรับนักลงทุนที่อยากกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศในหุ้นของบริษัทฯ ชั้นนำที่พวกเรารู้จักกันเป็นอย่างดี และมีโอกาสเป็นลูกค้าเสมอๆ อาทิ Toyota, Honda, Nissan, Sony, Panasonic, Canon, Asahi, ANA, KAO, Sony, Toshiba, UNIQLO, และ 7-Eleven เป็นต้น ซึ่งคาดการณ์ว่าในช่วงหลังของปีนี้ บริษัทฯ เหล่านี้จะยังคงได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมของการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่น่าจะขยายตัวต่อเนื่องนับจากปีที่แล้วจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นและการบริโภคภาคประชาชนที่ยังคงไว้ด้วยความแข็งแกร่ง”
นอกจากนั้น กองทุนเปิดทหารไทย Japan Equity Trigger 10%(2) ยังออกแบบในลักษณะ Trigger Fund ซึ่งจะช่วยเอื้อประโยชน์แก่ผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นญี่ปุ่นอย่างสม่ำเสมอ กองทุนกำหนดเป้าหมายทำกำไรรวม 10% ใน 1 ปี ระหว่างทางเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.5 บาท (ร้อยละ 5) จะทำการรับซื้อคืนอัตโนมัติทรัพย์สินของกองทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุน และเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 11 บาท บริษัทฯ จะสับเปลี่ยนทรัพย์สินของกองทุนที่เหลือทั้งจำนวนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย โดยเงื่อนไขเป็นไปตามหนังสือชี้ชวน
“สำหรับภูมิภาคยุโรปนั้น เราเชื่อว่า ‘กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท’ และ ‘กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท เพื่อการเลี้ยงชีพ’ เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นยุโรปพื้นฐานดีซึ่งผ่านการคัดสรรจาก Franklin Templeton Investments ผู้นำด้านการบริหารการลงทุนระดับโลกซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการกว่า 8.8 แสนล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ กองทุนหลัก Franklin European Growth Fund นี้มีแนวทางการบริหารเชิงรุก มีวิธีการคัดเลือกหุ้นที่มีวินัย และให้ความสำคัญกับหุ้นที่มีศักยภาพของกำไรที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต กองทุนหลักนี้มีผลตอบแทนในอดีตที่น่าสนใจและการันตีด้วยการได้รับการจัดอันดับสูงสุดห้าดาวจากสถาบัน Morningstar (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557)” ดร.สมจินต์ กล่าวเสริม
ผู้ที่สนใจลงทุนใน กองทุนเปิดทหารไทย Japan Equity Trigger 10%(2), กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท,กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือสนใจการลงทุนในกองทุนรวมอื่นๆภายใต้การจัดการของบริษัทฯ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ TMBAM โทร 1725 หรือผ่านช่องทางการขายของบริษัท ได้แก่ TMB ทุกสาขาทั่วประเทศ ตัวแทนการสนับสนุนการขาย และทางอินเตอร์เนตผ่านเวปไซด์ www.tmbam.com



อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/prg/1896760

วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

TMB ปล่อยกู้ 500 ลบ.ให้ภัทรลิสซิ่งเวลา 3 ปีเพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 พฤษภาคม 2557 15:03:46 น

ทีเอ็มบี สนับสนุนสินเชื่อ ภัทรลิสซิ่ง


      นายอเล็กซานเดอร์ นนท์ แลงเฟลด์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบรรษัทธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารทหารไทย (TMB) ร่วมลงนามในข้อตกลงสินเชื่อระยะยาว โดย TMB ให้การสนับสนุนสินเชื่อ จำนวนเงิน 500 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี แก่ บมจ.ภัทรลิสซิ่ง (PL) เพื่อเสริมศักยภาพด้านการดำเนินธุรกิจให้กับภัทรลิสซิ่ง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการลิสซิ่งรายใหญ่ที่สุดของประเทศ และมีลูกค้าบุคคลและลูกค้าองค์กรให้ความไว้วางใจมากที่สุด

วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แบงก์พาเหรดหั่นเป้า'ปล่อยกู้'

    ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- ศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2557 00:00:49 น.

         นนทบุรี * แบงก์พาเหรดหั่นเป้าสินเชื่อตามการหดตัวของเศรษฐกิจ ศึก การเมืองยังยืดเยื้อ BBL คาดโต 3-5% แต่ TMB มั่นใจโตตามเป้า 6-8% ขณะที่ CIMBT หดเหลือ 10-15% ผิดหวังการเมืองไม่จบครึ่งปีแรก
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL เปิดเผยว่า ในปี 2557 คาดว่าสินเชื่อของธนาคารจะเติบโตประมาณ 3-5% ภายใต้สมมติฐาน เศรษฐกิจไทยปีนี้ลดลงมาเหลือ 2% จากเดิมที่เคยคาดไว้ว่าสินเชื่อจะเติบโตประมาณ 5% บนสมมติฐานเศรษฐกิจโต 3% เป็น ผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐ กิจ ทำให้สินเชื่อของธนาคารทรงตัว ในเดือน เม.ย. และไตรมาส 1/2557 ไม่เติบโตเท่าที่ควร
 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในประเทศจะยังมีการจับจ่ายใช้สอย ถึงแม้ว่าอาจจะชะลอตัวบ้าง ส่วนภาคเอกชนยังมีความต้องการลงทุน แต่อยู่ในช่วงรอดูจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม ซึ่งช่วงครึ่งปีหลังธนาคารจะจับตาลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีการสนับสนุนการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจส่งออก การผลิตและการบริโภค ส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ทั้งปี คาดว่าจะอยู่ในระดับเดียวกันกับปัจจุบันที่ประมาณ 2%
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประ ธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหาร ไทย หรือ TMB กล่าวว่า สินเชื่อในปีนี้คาดว่าจะโตที่ระดับ 6-8% ตามเป้าหมาย ภายใต้คาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้อยู่ที่ 2-3% ซึ่งแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อของธนาคารในไตรมาส 2/2557 คาดว่าจะอยู่ใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 1/2557 โดยมองว่าในระยะต่อไป ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองอาจจะคลี่คลายได้โดยเร็ว แต่หากการเมืองยังยืดเยื้อ จะกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจได้
ขณะที่ นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย หรือ CIMBT กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับลดเป้าสินเชื่อปีนี้เหลือ 10-15% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 15-20% เนื่องจากสถานการณ์การเมืองกระ ทบให้เศรษฐกิจชะลอตัว อีกทั้งก่อนหน้านี้เคยคาดว่าการเมืองจะจบได้ภายในครึ่งปีแรก แต่ปัจจุบันน่าจะยืดเยื้อไปถึงครึ่งปีหลัง ซึ่งช่วงครึ่งปีหลังมองว่าสินเชื่อคงจะยังมีการเติบโตได้ค่อนข้างดี เพราะมีลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่ในมือมูลค่าหลักหมื่นล้านบาท สำหรับการเติบโตของสินเชื่อในไตรมาส 1/2557 ที่ผ่านมา มีการเติบโตเพียง 1-2% เท่านั้น มาจากสินเชื่อบ้านและสินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก.

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/tpd/1893144

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

SME คลายกังวลการเมือง เครียดภาวะเศรษฐกิจแทน


8 พฤษภาคม 2557

                                              SME คลายกังวลการเมือง เครียดภาวะเศรษฐกิจแทน
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics เปิดเผยผลการจัดทำ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดย่อม-ทีเอ็มบี พบว่าผู้ประกอบการ SME มีภาวะธุรกิจไม่สดใสในไตรมาส 2 ปีนี้  แม้คลายกังวลปัญหาการเมือง แต่ให้น้ำหนักกับปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวเพิ่มขึ้น
นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดย่อม-ทีเอ็มบี” (TMB-SME Sentiment Index) ไตรมาส 1/2557 จากความเห็นของผู้ประกอบการ SME กว่า 900 กิจการ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในปัจจุบัน ลดลงต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ 37.6 ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผู้ประกอบการขาดความมั่นใจด้านรายได้ของธุรกิจ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 51.1 ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 58.4 เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า ภาวะของธุรกิจไม่สดใสมากนัก และต้นทุนของธุรกิจอาจจะเพิ่มสูงขึ้น
หากพิจารณาเฉพาะ ดัชนีความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการในปัจจุบันอยู่ที่ 45.2 และ ดัชนีความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 63.2 ลดลงจากไตรมาส 4/2556 ค่อนข้างมาก สาเหตุหลักมาจาก SME กังวลเรื่องของเศรษฐกิจและการเมือง
นายเบญจรงค์ กล่าวว่า หากพิจารณาเป็นรายภูมิภาค พบว่า กรุงเทพและปริมณฑล มีระดับความเชื่อมั่นในปัจจุบันและอนาคตลดลงค่อนข้างมากกว่าภาคอื่น เนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเมือง ขณะที่ราคายางพารามีแนวโน้มชะลอตัวตลอดมา ตั้งแต่ปี 2556 ทำให้ผู้ประกอบการ SME ภาคใต้เชื่อมั่นต่อผลประกอบการในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม กลับพบว่า ภาคตะวันออก ผู้ประกอบการกลับมีความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการในปัจจุบันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 3 ไตรมาสติดต่อกัน เพราะภาคการผลิตและการค้าที่ฟื้นตัวจากการส่งออก และการท่องเที่ยวในพื้นที่ยังอยู่ในทิศทางที่สดใส
นอกจากนี้ เมื่อสอบถามถึงปัจจัยที่ทำให้ SME กังวลมากที่สุดในไตรมาส 1 พบว่า “การเมือง” เป็นปัจจัยกังวลอันดับ 1 ถือเป็นครั้งแรกในระยะเวลาเกือบ 2 ปีนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูล ซึ่งผู้ประกอบการในกรุงเทพมีความกังวลมากกว่าต่างจังหวัด อย่างไรก็ตาม พบว่า SME เริ่มกังวล การเมือง ลดลง เรื่อยๆ จากร้อยละ 43.3 ในเดือนมกราคม เป็น ร้อยละ 28.9 ในเดือนมีนาคม แต่หันมาให้น้ำหนักกับภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มขึ้น โดยจำนวน SME ที่กังวลเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 26.4 ในเดือนมกราคม เป็นร้อยละ 41.0 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
“แม้ว่า SME จะคลายความกังวลกับปัจจัยการเมืองไปบ้างแล้ว แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัญหาการเมืองที่ยังยืดเยื้อ นับเป็นความท้าทายของ SME ในระยะต่อไป เราเห็นว่าหากการเมืองเริ่มคลี่คลายและภาครัฐมีความชัดเจนในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัว จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นของธุรกิจ SME กลับมาได้อีกครั้ง” นายเบญจรงค์กล่าว

อ้างอิง : https://www.tmbbank.com/newsroom/news-details.php?id=554       

TMBAM ชวน ‘จัดทัพลงทุน’ สู่ญี่ปุ่นและยุโรป คว้าโอกาส จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของทั้งสองภูมิภาค

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2557 14:32:20 น.

                                    TMBAM ชวน ‘จัดทัพลงทุน’ สู่ญี่ปุ่นและยุโรป คว้าโอกาส จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของทั้งสองภูมิภาค


                                      กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย
         
                 ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า “ในโลกยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ อย่างรวดเร็ว ในขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศยังมีความผันผวนอยู่มาก มุมมองการลงทุนในปีนี้ของ TMBAM จึงเป็นการชวนนักลงทุนไทยให้จัดทัพลงทุน โดยการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงและคว้าโอกาสเพิ่มของผลตอบแทนด้วยการสร้างมุมมองแบบนักลงทุนระดับโลก (Global Investor) ให้มากขึ้น โดยนักลงทุนจะยังลงทุนในประเทศอยู่ การกระจายการลงทุนบางส่วนไปยังภูมิภาคที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็งต่อเนื่อง อาทิ ญี่ปุ่น และ ยุโรป ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในปัจจุบัน”
“จากแรงตอบรับที่ดีของกองทุนหุ้นญี่ปุ่นและยุโรปของเราที่เสนอขายไปเมื่อช่วงต้นปี ผนวกกับแนวโน้มการฟื้นตัวที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องของทั้ง 2 ภูมิภาค TMBAM จึงขอนำเสนอกองทุนหุ้นในภูมิภาคดังกล่าวอีกครั้ง ได้แก่
1. ‘กองทุนเปิดทหารไทย Japan Equity Trigger 10%(2)’ ที่เน้นลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นผ่านทางกองทุนหลัก Nikkei 225 Exchange Traded Fund ซึ่งบริหารจัดการแบบเชิงรับ (Passive) โดย Nomura Asset Management
2. ‘กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท’ ที่เน้นลงทุนในหุ้นยุโรปผ่านทางกองทุนหลัก Franklin European Growth Fund ซึ่งบริหารจัดการแบบเชิงรุก (Active) โดย Franklin Templeton Investments
3. ‘กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท เพื่อการเลี้ยงชีพ’ ที่มีนโยบายการลงทุนเหมือน ‘กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท’ พร้อมบวกด้วยสิทธิประโยชน์จากการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้นักลงทุนสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้
ทั้ง 3 กองทุนมีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศไม่น้อยกว่า 90% ตลอดเวลา และกำหนดเปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 12 - 20 พฤษภาคม 2557 นี้”
ดร.สมจินต์ กล่าวต่อว่า “ สำหรับ ‘กองทุนเปิดทหารไทย Japan Equity Trigger 10%(2)’ นั้น เหมาะสำหรับนักลงทุนที่อยากกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศในหุ้นของบริษัทฯ ชั้นนำที่พวกเรารู้จักกันเป็นอย่างดี และมีโอกาสเป็นลูกค้าเสมอๆ อาทิ Toyota, Honda, Nissan, Sony, Panasonic, Canon, Asahi, ANA, KAO, Sony, Toshiba, UNIQLO, และ 7-Eleven เป็นต้น ซึ่งคาดการณ์ว่าในช่วงหลังของปีนี้ บริษัทฯ เหล่านี้จะยังคงได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมของการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่น่าจะขยายตัวต่อเนื่องนับจากปีที่แล้วจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นและการบริโภคภาคประชาชนที่ยังคงไว้ด้วยความแข็งแกร่ง”
นอกจากนั้น กองทุนเปิดทหารไทย Japan Equity Trigger 10%(2) ยังออกแบบในลักษณะ Trigger Fund ซึ่งจะช่วยเอื้อประโยชน์แก่ผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นญี่ปุ่นอย่างสม่ำเสมอ กองทุนกำหนดเป้าหมายทำกำไรรวม 10% ใน 1 ปี ระหว่างทางเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.5 บาท (ร้อยละ 5) จะทำการรับซื้อคืนอัตโนมัติทรัพย์สินของกองทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุน และเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 11 บาท บริษัทฯ จะสับเปลี่ยนทรัพย์สินของกองทุนที่เหลือทั้งจำนวนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย โดยเงื่อนไขเป็นไปตามหนังสือชี้ชวน
“สำหรับภูมิภาคยุโรปนั้น เราเชื่อว่า ‘กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท’ และ ‘กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท เพื่อการเลี้ยงชีพ’ เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นยุโรปพื้นฐานดีซึ่งผ่านการคัดสรรจาก Franklin Templeton Investments ผู้นำด้านการบริหารการลงทุนระดับโลกซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการกว่า 8.8 แสนล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ กองทุนหลัก Franklin European Growth Fund นี้มีแนวทางการบริหารเชิงรุก มีวิธีการคัดเลือกหุ้นที่มีวินัย และให้ความสำคัญกับหุ้นที่มีศักยภาพของกำไรที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต กองทุนหลักนี้มีผลตอบแทนในอดีตที่น่าสนใจและการันตีด้วยการได้รับการจัดอันดับสูงสุดห้าดาวจากสถาบัน Morningstar (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557)” ดร.สมจินต์ กล่าวเสริม
ผู้ที่สนใจลงทุนใน กองทุนเปิดทหารไทย Japan Equity Trigger 10%(2), กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท,กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือสนใจการลงทุนในกองทุนรวมอื่นๆภายใต้การจัดการของบริษัทฯ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนลูกค้าสัมพันธ์ TMBAM โทร 1725 หรือผ่านช่องทางการขายของบริษัท ได้แก่ TMB ทุกสาขาทั่วประเทศ ตัวแทนการสนับสนุนการขาย และทางอินเตอร์เนตผ่านเวปไซด์ www.tmbam.com

อ้างอ้ง : http://www.ryt9.com/s/prg/1892822

TMBAM ออก 3 กองทุนหุ้นญี่ปุ่น-ยุโรปคว้าโอกาสการฟื้นตัวต่อเนื่องสองภูมิภาค

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2557 14:05:02 น.

                            


       นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย(TMBAM) จำกัด กล่าวว่า จากแรงตอบรับที่ดีของกองทุนหุ้นญี่ปุ่นและยุโรปของเราที่เสนอขายไป เมื่อช่วงต้นปี ผนวกกับแนวโน้มการฟื้นตัวที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องของทั้ง 2 ภูมิภาค TMBAM จึงขอนำเสนอกองทุนหุ้นในภูมิภาคดังกล่าวอีกครั้ง ได้แก่ "กองทุนเปิดทหารไทย Japan Equity Trigger 10%(2)" ที่เน้นลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นผ่านทางกองทุนหลัก Nikkei 225 Exchange Traded Fund ซึ่งบริหารจัดการแบบเชิงรับ (Passive) โดย Nomura Asset Management
"กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท" ที่เน้นลงทุนในหุ้นยุโรปผ่านทางกองทุนหลัก Franklin European Growth Fund ซึ่งบริหารจัดการแบบเชิงรุก (Active) โดย Franklin Templeton Investments และ "กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท เพื่อการเลี้ยงชีพ" ที่มีนโยบายการลงทุนเหมือน ‘กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท’ พร้อมบวกด้วยสิทธิประโยชน์จากการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้นักลงทุน สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้
ทั้ง 3 กองทุนมีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศไม่ น้อยกว่า 90% ตลอดเวลา และกำหนดเปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 12-20 พ.ค.57
นายสมจินต์ กล่าวว่า สำหรับ กองทุนเปิดทหารไทย Japan Equity Trigger 10%(2) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่อยากกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศในหุ้นของบริษัทฯ ชั้นนำที่พวกเรารู้จักกันเป็นอย่างดี และมีโอกาสเป็นลูกค้าเสมอๆ อาทิ Toyota, Honda, Nissan, Sony, Panasonic, Canon, Asahi, ANA, KAO, Sony, Toshiba, UNIQLO, และ 7-Eleven เป็นต้น ซึ่งคาดการณ์ว่าในช่วงหลังของปีนี้ บริษัทฯ เหล่านี้จะยังคงได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมของการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ น่าจะขยายตัวต่อเนื่องนับจากปีที่แล้วจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของ รัฐบาลญี่ปุ่นและการบริโภคภาคประชาชนที่ยังคงไว้ด้วยความแข็งแกร่ง
นอกจากนั้น กองทุนดังกล่าวยังออกแบบในลักษณะ Trigger Fund ซึ่งจะช่วยเอื้อประโยชน์แก่ผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้น ญี่ปุ่นอย่างสม่ำเสมอ กองทุนกำหนดเป้าหมายทำกำไรรวม 10% ใน 1 ปี ระหว่างทางเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.5 บาท (ร้อยละ 5) จะทำการรับซื้อคืนอัตโนมัติทรัพย์สินของกองทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุน และเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 11 บาท บริษัทฯ จะสับเปลี่ยนทรัพย์สินของกองทุนที่เหลือทั้งจำนวนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย โดยเงื่อนไขเป็นไปตามหนังสือชี้ชวน
สำหรับภูมิภาคยุโรปนั้น เชื่อว่ากองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท และ กองทุนเปิดทหารไทย ยูโรเปี้ยน โกรท เพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นยุโรปพื้นฐาน ดีซึ่งผ่านการคัดสรรจาก Franklin Templeton Investments ผู้นำด้านการบริหารการลงทุนระดับโลกซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหาร จัดการกว่า 8.8 แสนล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ  กองทุนหลัก Franklin European Growth Fund นี้มีแนวทางการบริหารเชิงรุก มีวิธีการคัดเลือกหุ้นที่มีวินัย และให้ความสำคัญกับหุ้นที่มีศักยภาพของกำไรที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องใน อนาคต กองทุนหลักนี้มีผลตอบแทนในอดีตที่น่าสนใจและการันตีด้วยการได้รับการจัด อันดับสูงสุดห้าดาวจากสถาบัน Morningstar (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.57
"ในโลกยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ อย่างรวดเร็ว  ในขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศยังมีความผันผวนอยู่มาก มุมมองการลงทุนในปีนี้ของ TMBAM จึงเป็นการชวนนักลงทุนไทยให้จัดทัพลงทุน โดยการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงและคว้าโอกาสเพิ่มของผลตอบแทนด้วยการ สร้างมุมมองแบบนักลงทุนระดับโลก (Global Investor) ให้มากขึ้น โดยนักลงทุนจะยังลงทุนในประเทศอยู่ การกระจายการลงทุนบางส่วนไปยังภูมิภาคที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างเข้ม แข็งต่อเนื่อง อาทิ ญี่ปุ่น และ ยุโรป ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในปัจจุบัน"นายสมจินต์ กล่าว

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/iq05/1892791

TMB เสนอผลิตภัณฑ์-บริการทางการเงิน Make THE Difference ในงาน Money Expo

              ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2557 11:27:47 น.

      นายบุญทักษ์  หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ธนาคารได้มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างสร้างสรรค์ สร้างคุณค่าเพื่อยกระดับสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้ามีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ด้วยความหลากหลายความสุข ทางการเงินจาก TMB เพื่อตอกย้ำ“ธุรกรรมการเงินต้อง TMB"ทั้งด้านเงินฝาก สินเชื่อ บัตรเครดิต ประกัน การลงทุน และบัญชี ME ฝากไม่ประจำ ดอกเบี้ยสูง 4 เท่าของออมทรัพย์ ในงาน Money Expo 2014 ตั้งแต่วันที่ 8-11 พฤษภาคมนี้ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

                                   


        ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ Make THE Difference ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ชีวิตของลูกค้าดีขึ้น ซึ่งทีเอ็มบีนำมาเสนอในงาน Money Expo 2014 ประกอบไปด้วย ME by TMB บัญชีเงินฝากรูปแบบใหม่ ถอนได้ ดอกเบี้ยสูง 4 เท่าของออมทรัพย์ ที่มอบความสะดวก และความคุ้มค่าสำหรับลูกค้าที่ชอบบริหารจัดการการเงินด้วยตนเองผ่านอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ฝาก-ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีขั้นต่ำ และดูดอกเบี้ยได้ทุกวัน ทุกเวลา และสำหรับลูกค้าที่นำบัตรประชาชนพร้อมสมุดบัญชีออมทรัพย์มาลงทะบียนขอเปิดบัญชีภายในงาน พิเศษ รับ “บัตรกำนัลสตาร์บัคส์ มูลค่า 100 บาท" ทันที
บัญชีเงินฝากทีเอ็มบีช่วยให้ลูกค้ารวยแบบง่ายๆ ด้วย “บัญชีเพื่อใช้" (Transactional Account) ที่ช่วยประหยัดค่าธรรมเนียม และ “บัญชีเพื่อออม" ที่ให้ดอกเบี้ยสูง สำหรับ “บัญชีเพื่อใช้" เป็นบัญชีเงินฝากที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินประจำวันทุกประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพและพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริงอย่างคุ้มค่าในการทำธุรกรรม เช่น กดเงิน จ่ายบิล และโอนเงิน ผ่านตู้เอทีเอ็ม อินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง โมบายแบงกิ้ง และโฟนแบงกิ้ง โดยมีให้เลือกตามปริมาณการใช้งานของลูกค้า ทั้งบัญชี “TMB โน ฟี" สำหรับลูกค้าที่ทำธุรกรรมจำนวนมาก ทำรายการได้ฟรีรวมสูงสุด 20 ครั้งต่อเดือน และ “บัญชี TMB ธุรกรรมทำฟรี" สำหรับลูกค้าที่ทำรายการธุรกรรมทางบัญชีน้อยลงมา โดยสามารถกดเงิน จ่ายบิล โอนเงิน ผ่านช่องทางอิเลกทรอนิกส์ ได้ฟรี รวมสูงสุด 10 ครั้งต่อเดือน
นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเปิดบัญชีในกลุ่ม “บัญชีเพื่อออม" ซึ่งธนาคารขอนำเสนอ “บัญชีเงินฝากไม่ประจำ ทีเอ็มบี ดอกเบี้ยสูง" (No Fixed) เป็นบัญชีให้ดอกเบี้ยสูง 2.25% ปราศจากข้อจำกัดใดๆ ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชีและฝากเพิ่ม
“บัญชีเงินฝากออมทรัพย์แทนความห่วงใย" (TMB Savings Care) ที่ให้ลูกค้าทั้งออม พร้อมรับความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ สูงสุด 1 ล้านบาท โดยลูกค้าไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกัน เพียงลูกค้าเปิดบัญชีขั้นต่ำ 5,000 บาท ก็จะได้รับความคุ้มครอง 20 เท่าของยอดเงินฝาก สูงสุด 1 ล้านบาท พิเศษสุดเมื่อเปิดบัญชีภายในงานฯ จะได้รับ “สมุดนิทานแทนความห่วงใย" จำนวน 1 เล่ม ซึ่งเป็นเรื่องราวความห่วงใยในครอบครัวมาร้อยเรียงถ่ายทอดผ่านสมุดนิทานและตัวการ์ตูนป๊อปอัพ และลุ้นรับหมอนผ้าห่มนกฮูกสุดน่ารัก เพียงแชร์เรื่องราวและภาพความประทับใจในครอบครัวพร้อมถ่ายรูปคู่สมุดนิทานผ่าน Facebook หรือ Instagram ใส่ #TMBSavingsCare และระบุอีเมล์ของลูกค้า ตั้งแต่วันนี้ - 31 พ.ค. 2557
ในส่วนของสินเชื่อ ทีเอ็มบีมีข้อเสนอพิเศษ อาทิ กู้บ้าน ที่ ทีเอ็มบี ดอกเบี้ยดี ตลอด 3 ปีแรก สำหรับลูกค้าที่ ต้องการขอกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยทั้งประเภท บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุดคอนโดมิเนียม ทีเอ็มบี มีข้อเสนออัตราดอกเบี้ยที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกการผ่อนชำระทั้งแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก คือ เดือนที่ 1-2 ไม่คิดดอกเบี้ย เดือนที่ 3-24 ดอกเบี้ย 3.99% ปีที่ 3 เป็นต้นไป MLR-1.50% หรือแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก คือ ปีที่ 1-3 ดอกเบี้ย 4.25% ปีที่ 4 เป็นต้นไป MLR-1.50% ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถเลือกการผ่อนชำระที่เหมาะสมตรงกับความต้องการได้ พร้อมสิทธิพิเศษฟรีค่าจดทะเบียนจำนอง และค่าธรรมเนียมธนาคารทุกประเภท และ รับฟรี ประกันอัคคีภัย
ในงานยังมีข้อเสนอพิเศษ “สินเชื่อบุคคล ทีเอ็มบี รีไฟแนนซ์" ที่ให้ดอกเบี้ยพิเศษ 10% นาน 1 ปีเต็ม สำหรับลูกค้าที่ต้องการเคลียร์หนี้สินเชื่อบุคคล หรือบัตรเครดิตต่างๆ เป็นการแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการทางการเงินส่วนบุคคลให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับลูกค้าที่ต้องการความคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองชีวิต อุบัติเหตุ สุขภาพ บ้าน และรถยนต์ ก็สามารถเลือกรูปแบบประกันที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของลูกค้า พร้อมพบโปรโมชั่นดีๆ พิเศษภายในงาน นอกจากนี้ ในส่วนลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีมีผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าธุรกิจได้เป็นอย่างดี คือ สินเชื่อธุรกิจ 3 เท่า 3 ก๊อก และบัญชีธุรกิจวัน แบงก์ วัน แอคเค้าท์ (One Bank One Account) โดยผู้สนใจที่ยื่นความจำนงค์ภายในงานและส่งเอกสารครบ จะได้ของที่ระลึกจากบูธอีกด้วย
สำหรับบูธทีเอ็มบี ในงาน Money Expo 2014 ได้รับการออกแบบภายใต้แรงบันดาลใจและแนวคิด Make THE Difference ที่ทีเอ็มบีอยากให้เป็นสถานที่ที่ลูกค้านึกถึงเป็นอันดับแรก เปรียบเสมือนบ้านหลังหนึ่ง นอกจากที่บ้านและที่ทำงาน เป็นสถานที่ที่สาม ที่พักพิงไว้วางใจ นั่งเล่น พบปะสังสรรค์ มีบริการที่หลากหลายและให้ความสุขทางการเงินโดยสามารถตอบโจทย์เรื่องการเงินของลูกค้าเพื่อให้คุณภาพชีวิตของลูกค้าดีขึ้น

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/iq05/1892651


TMB คาดปี 57 สินเชื่อโต 6-8% ภายใต้คาดการณ์ GDP ไทยโต 2-3%


ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2557 11:02:53 น.

                                            

         นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย(TMB) กล่าวว่า  ธนาคารคาดว่าสินเชื่อในปีนี้จะเติบโตได้ในระดับ 6-8% ตามเป้าหมาย ภายใต้คาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 57 ที่ระดับ 2-3% โดยแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อของธนาคารในไตรมาส 2/57 นั้น คาดว่าจะอยู่ใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 1/57 ที่ผ่านมา แต่มองว่าในระยะต่อไปปัญหาการเมืองจะคลี่คลายได้โดยเร็ว
สำหรับปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ สะท้อนได้จากการใช้จ่ายที่ลดลง แต่เศรษฐกิจไทยยังได้รับผลดีอยู่บ้างจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจของสหรัฐและญี่ปุ่นที่ทำให้การส่งออกขยายตัวได้ดีขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกภาคการส่งออก โดยภาคเกษตรยังมีการชะลอตัวตามราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ตกต่ำ ซึ่งหากการเมืองยังยืดเยื้อออกไปอีกก็อาจจะกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจได้
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนและสถาบันการเงินอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากภาคเอกชนสามารถปรับตัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสถาบันการเงินมีความแข็งแกร่ง โดยมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระดับสูงถึง 160% นอกจากนี้สถาบันจัดอันดับเครดิตเรตติ้งยังคงจัดให้สถาบันการเงินของไทยมีความมั่นคงและมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ต่ำ

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/iq05/1892613

ทีเอ็มบี ตอบโจทย์ธุรกรรมการเงินต้อง TMB นำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการที่หลากหลายความสุขทางการเงิน



           ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2557 10:39:38 น.  กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--ทีเอ็มบี


                            


           
              ทีเอ็มบี ตอบโจทย์ธุรกรรมการเงินต้อง TMB นำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการที่หลากหลายความสุขทางการเงิน พร้อมยกระดับสิทธิประโยชน์ให้ชีวิตดียิ่งขึ้นอย่างแท้จริงในงาน Money Expo 2014 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี วันที่ 8-11 พ.ค. นี้
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทยจำกัด (มหาชน) เป็นประธานร่วมเปิดบูธ ในงาน Money Expo 2014 ซึ่งธนาคารได้มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างสร้างสรรค์ สร้างคุณค่าเพื่อยกระดับสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้ามีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ด้วยความหลากหลายความสุข ทางการเงินจาก TMB เพื่อตอกย้ำ “ธุรกรรมการเงินต้อง TMB” ทั้งด้านเงินฝาก สินเชื่อ บัตรเครดิต ประกัน การลงทุน และบัญชี ME ฝากไม่ประจำ ดอกเบี้ยสูง 4 เท่าของออมทรัพย์ ในงาน Money Expo 2014 ตั้งแต่วันที่ 8-11 พฤษภาคมนี้ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ Make THE Difference ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ชีวิตของลูกค้าดีขึ้น ซึ่งทีเอ็มบีนำมาเสนอในงาน Money Expo 2014 ประกอบไปด้วย
ME by TMB บัญชีเงินฝากรูปแบบใหม่ ถอนได้ ดอกเบี้ยสูง 4 เท่าของออมทรัพย์ ที่มอบความสะดวก และความคุ้มค่าสำหรับลูกค้าที่ชอบบริหารจัดการการเงินด้วยตนเองผ่านอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ฝาก-ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีขั้นต่ำ และดูดอกเบี้ยได้ทุกวัน ทุกเวลา และสำหรับลูกค้าที่นำบัตรประชาชนพร้อมสมุดบัญชีออมทรัพย์มาลงทะบียนขอเปิดบัญชีภายในงาน พิเศษ รับ “บัตรกำนัลสตาร์บัคส์ มูลค่า 100 บาท” ทันที
บัญชีเงินฝากทีเอ็มบีช่วยให้ลูกค้ารวยแบบง่ายๆ ด้วย “บัญชีเพื่อใช้” (Transactional Account) ที่ช่วยประหยัดค่าธรรมเนียม และ “บัญชีเพื่อออม” ที่ให้ดอกเบี้ยสูง สำหรับ “บัญชีเพื่อใช้” เป็นบัญชีเงินฝากที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินประจำวันทุกประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพและพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริงอย่างคุ้มค่าในการทำธุรกรรม เช่น กดเงิน จ่ายบิล และโอนเงิน ผ่านตู้เอทีเอ็ม อินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง โมบายแบงกิ้ง และโฟนแบงกิ้ง โดยมีให้เลือกตามปริมาณการใช้งานของลูกค้า ทั้งบัญชี “TMB โน ฟี” สำหรับลูกค้าที่ทำธุรกรรมจำนวนมาก ทำรายการได้ฟรีรวมสูงสุด 20 ครั้งต่อเดือน และ “บัญชี TMB ธุรกรรมทำฟรี” สำหรับลูกค้าที่ทำรายการธุรกรรมทางบัญชีน้อยลงมา โดยสามารถกดเงิน จ่ายบิล โอนเงิน ผ่านช่องทางอิเลกทรอนิกส์ ได้ฟรี รวมสูงสุด 10 ครั้งต่อเดือน
นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเปิดบัญชีในกลุ่ม “บัญชีเพื่อออม” ซึ่งธนาคารขอนำเสนอ “บัญชีเงินฝากไม่ประจำ ทีเอ็มบี ดอกเบี้ยสูง” (No Fixed) เป็นบัญชีให้ดอกเบี้ยสูง 2.25% ปราศจากข้อจำกัดใดๆ ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชีและฝากเพิ่ม
“บัญชีเงินฝากออมทรัพย์แทนความห่วงใย” (TMB Savings Care) ที่ให้ลูกค้าทั้งออม พร้อมรับความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ สูงสุด 1 ล้านบาท โดยลูกค้าไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกัน เพียงลูกค้าเปิดบัญชีขั้นต่ำ 5,000 บาท ก็จะได้รับความคุ้มครอง 20 เท่าของยอดเงินฝาก สูงสุด 1 ล้านบาท พิเศษสุดเมื่อเปิดบัญชีภายในงานฯ จะได้รับ “สมุดนิทานแทนความห่วงใย” จำนวน 1 เล่ม ซึ่งเป็นเรื่องราวความห่วงใยในครอบครัวมาร้อยเรียงถ่ายทอดผ่านสมุดนิทานและตัวการ์ตูนป๊อปอัพ และลุ้นรับหมอนผ้าห่มนกฮูกสุดน่ารัก เพียงแชร์เรื่องราวและภาพความประทับใจในครอบครัวพร้อมถ่ายรูปคู่สมุดนิทานผ่าน Facebook หรือ Instagram ใส่ #TMBSavingsCare และระบุอีเมล์ของลูกค้า ตั้งแต่วันนี้ - 31 พ.ค. 2557
ในส่วนของสินเชื่อ ทีเอ็มบีมีข้อเสนอพิเศษ อาทิ กู้บ้าน ที่ ทีเอ็มบี ดอกเบี้ยดี ตลอด 3 ปีแรก สำหรับลูกค้าที่ ต้องการขอกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยทั้งประเภท บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุดคอนโดมิเนียม ทีเอ็มบี มีข้อเสนออัตราดอกเบี้ยที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกการผ่อนชำระทั้งแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก คือ เดือนที่ 1-2 ไม่คิดดอกเบี้ย เดือนที่ 3-24 ดอกเบี้ย 3.99% ปีที่ 3 เป็นต้นไป MLR-1.50% หรือแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก คือ ปีที่ 1-3 ดอกเบี้ย 4.25% ปีที่ 4 เป็นต้นไป MLR-1.50% ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถเลือกการผ่อนชำระที่เหมาะสมตรงกับความต้องการได้ พร้อมสิทธิพิเศษฟรีค่าจดทะเบียนจำนอง และค่าธรรมเนียมธนาคารทุกประเภท และ รับฟรี ประกันอัคคีภัย
ในงานยังมีข้อเสนอพิเศษ “สินเชื่อบุคคล ทีเอ็มบี รีไฟแนนซ์” ที่ให้ดอกเบี้ยพิเศษ 10% นาน 1 ปีเต็ม สำหรับลูกค้าที่ต้องการเคลียร์หนี้สินเชื่อบุคคล หรือบัตรเครดิตต่างๆ เป็นการแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการทางการเงินส่วนบุคคลให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับลูกค้าที่ต้องการความคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองชีวิต อุบัติเหตุ สุขภาพ บ้าน และรถยนต์ ก็สามารถเลือกรูปแบบประกันที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของลูกค้า พร้อมพบโปรโมชั่นดีๆ พิเศษภายในงาน
นอกจากนี้ ในส่วนลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีมีผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าธุรกิจได้เป็นอย่างดี คือ สินเชื่อธุรกิจ 3 เท่า 3 ก๊อก และบัญชีธุรกิจวัน แบงก์ วัน แอคเค้าท์ (One Bank One Account) โดยผู้สนใจที่ยื่นความจำนงค์ภายในงานและส่งเอกสารครบ จะได้ของที่ระลึกจากบูธอีกด้วย
สำหรับบูธทีเอ็มบี ในงาน Money Expo 2014 ได้รับการออกแบบภายใต้แรงบันดาลใจและแนวคิด Make THE Difference ที่ทีเอ็มบีอยากให้เป็นสถานที่ที่ลูกค้านึกถึงเป็นอันดับแรก เปรียบเสมือนบ้านหลังหนึ่ง นอกจากที่บ้านและที่ทำงาน เป็นสถานที่ที่สาม ที่พักพิงไว้วางใจ นั่งเล่น พบปะสังสรรค์ มีบริการที่หลากหลายและให้ความสุขทางการเงินโดยสามารถตอบโจทย์เรื่องการเงินของลูกค้าเพื่อให้คุณภาพชีวิตของลูกค้าดีขึ้น
ลูกค้าที่สนใจผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายและสิทธิประโยชน์มากมายที่ครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้า ในด้านอื่นๆ อาทิ บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม และสินเชื่อ SME ขอเชิญแวะมาพูดคุยสอบถามกับพนักงานได้ที่บูธทีเอ็มบี หรือพร้อมจะยกระดับสิทธิประโยชน์ให้ชีวิตดียิ่งขึ้นอย่างแท้จริงและหลากหลายความสุขทางการเงินจาก TMB ด้วยข้อเสนอพิเศษอื่นๆ และรับของที่ระลึกง่ายๆ ในงาน Money Expo 2014 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในวันที่ 8-11 พฤษภาคมนี้

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/prg/1892588

วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

TMB Wealth Banking ชวนช้อปกับสีสันเสริมชะตา

ข่าวบันเทิง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อังคารที่ 6 พฤษภาคม 2557 06:00:00 น.


                                  


       ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรมมอบประสบการณ์เหนือระดับแก่ลูกค้า TMB  Wealth Banking ด้วย “เอ็กซ์คลูซีฟช้อปปิ้ง” กับสีสันที่เป็นมงคล เสริมโชคชะตา พร้อมส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 50% ณ  ช็อปลองฌอมป์ สยามพารากอน ภายในงานยังได้เชิญ หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา นักโหราศาสตร์ด้านฮวงจุ้ยชื่อดัง มาเผยเรื่องสีสันเสริมดวงและเป็นมงคลคลอดปี 2557
ชมภูนุช ปฐมพร  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่  ธุรกิจสาขา  ทีเอ็มบี  เผยว่า นอกเหนือจากการนำเสนอการวางแผนทางการบริหารการเงินอย่างครบวงจร TMB Wealth Banking  ยังจัดกิจกรรมมอบสิทธิพิเศษเพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่ชอบความบันเทิง กีฬา ท่องเที่ยว ความสวยความงามและสุขภาพ ฯลฯ  เพื่อแทนคำขอบคุณที่ลูกค้าต่างไว้วางใจในบริการของธนาคาร และเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกค้าและธนาคาร และสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการช้อปปิ้ง เราได้ทำการสำรวจข้อมูล เพื่อสรรหาแบรนด์ในดวงใจ  มอบเป็นพิเศษสำหรับ TMB Wealth Banking โดยเฉพาะ  สำหรับวันนี้ยังได้เชิญหมอช้าง-ทศพร มาเผยเคล็ดลับเสริมดวง ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อ”
นัทธชา  สุนทรวิเนตร์
หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา ยังได้เผยถึงสีสันเสริมดวงชะตาว่า “การเลือกใช้สีที่ถูกต้องก็เหมือนกับการหันจานดาวเทียมได้ถูกทิศถูกทาง ช่วยเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นได้ จริงๆ แล้วคนเราทุกคนใช้ได้ทุกสี บางคนอาจจะกังวลว่าสีนี้ไม่ถูกโฉลก แต่จริงๆ แล้วในหลักของดวง การเลือกสิ่งของมาอยู่ใกล้ตัว ควรเลือกความหลากหลายของสีสัน อย่างน้อยเราก็ได้เปลี่ยนบรรยากาศ และสร้างพลังใหม่ให้กับตัวเอง จากตำราโหราศาสตร์จีน ปีมะเมียปีนี้มาพร้อมกับพลังของธาตุไม้ และสีสันที่เสริมธาตุไม้ได้เป็นอย่างดี คือ สีสันของธาตุไฟ อาทิ สีส้ม สีแดง ม่วง ช่วยเสริมความก้าวหน้าได้ สำหรับครึ่งปีหลังของปี 2557  ดาวพฤหัสมีพลังมากที่สุด พวกสีเหลือง ครีม น้ำตาล เป็นสีตำแหน่งมหาอุจจ์ ที่ป้องกันสิ่งไม่ดีและเป็นสีที่มีพลังที่สุด”
นัทธชา  สุนทรวิเนตร์ ลูกสาวสุดสวยคนเก่งของ วิทวัส สุนทรวิเนตร์ พิธีกรรายการตีสิบ หนึ่งในลูกค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษจาก TMB Wealth Banking บอกว่า “ปกติเป็นคนชอบช้อปปิ้งมาก   ก็จะซื้อของหลายแบบ รองเท้า กระเป๋า หรืออยู่ที่ว่าเราถูกใจ ปอยมีเทคนิคในการคิดก่อนซื้อว่า จะใช้ได้จริงไหม ใส่ในโอกาสไหน เราต้องคิดไว้ก่อน ไม่ใช่ซื้อแต่ของที่ชอบอย่างเดียว เช่น เวลาไปที่ญี่ปุ่น จะซื้อเครื่องสำอาง วิตามิน ผลิตภัณฑ์ประทินผิวต่างๆ และ รองเท้า เพราะทนมากๆ   ถ้าไปสหรัฐอเมริกาก็ต้องเน้นเมคอัพ อย่างกระเป๋า Longchamp ก็เคยไปซื้อที่ฝรั่งเศส เป็นแบรนด์ที่ชอบ และใช้ทนมาก เหมาะกับการเดินทาง สำหรับสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งของปอย จะนึกถึงประเทศออสเตรเลีย เพราะจะมีของที่มีคุณภาพ และของที่พิเศษเป็นเอกลักษณ์ค่ะ”
กรรณิการ์ พรหมบถ
กรรณิการ์ พรหมบถ ลูกค้า TMB Wealth Banking ที่ช้อปปิ้งยอดสูงสุดในงาน ได้รับสิทธิพิเศษสุด ดูดวงเสริมราศีกับหมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา เผยว่า “วันนี้ได้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สีที่เป็นมงคลกับเรา และคำแนะนำอีกมากมาย ดีมากๆ เลยค่ะ เป็นสิทธิพิเศษที่ได้จากการช้อปปิ้งในวันนี้ ซึ่งปกติเราก็เป็นคนที่ชอบช้อปปิ้งอยู่แล้ว ช้อปบ่อยเหมือนกันค่ะ ต่างประเทศก็ไป อย่างที่ลอนดอนจะชอบเป็นพิเศษ เพราะเดินช้อปง่าย และราคาก็โอเคมากๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า แต่จะเลือกที่เป็นซีซั่น และเลือกที่ใช้งานได้จริงๆ ค่ะ”
หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา กับผู้บริหารหญิง TMB ปนัดดา ตัณฑ์ชาญชีวิน, ปณิชา กิตติวัฒน์ และ ชมภูนุช ปฐมพร

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/nnd/1890482

คลุกวงใน: ME แรงไม่หยุด

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- อังคารที่ 6 พฤษภาคม 2557 00:00:07 น.



                                
   
      แรงดีไม่มีตกจริงจริ๊ง สำหรับกระแสตอบรับที่ยังคงไม่หยุดนิ่ง สำหรับทางเลือกใหม่ ออมเงินได้ค่าตอบแทนสูงกว่าระบบ ของ MEbyTMB
งานนี้บอสสาวคนเก่ง คุณรัชดา เสริมศิลปกุล แห่ง MEbyTMB  ได้โอกาสในยามที่ดอกเบี้ยแท้จริงในระบบติดลบ MEbyTMB  กลับได้รับความนิยมสวนกระแส และขอเอาใจชาวกรุงที่รักการออมอีกสักรอบ
เปิดบูธกิจกรรมในงาน Money Expo 2014 และที่พิเศษสำหรับลูกค้า ME โดยเฉพาะรับฟรี บัตรกำนัลสตาร์บัค มูลค่า 100 บาท แจกกันง่ายๆ เลย
แค่นำบัตรประชาชนพร้อมสมุดบัญชีออมทรัพย์ของคุณธนาคารใดก็ได้มาลงทะเบียนกับ ME ที่บูธ ME (G2) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 8-11 พ.ค.เท่านั้น

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/bmnd/1890546

TMBจับมือบลจ.ยูโอบีรุกตราสารสหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- อังคารที่ 6 พฤษภาคม 2557 00:00:02 น.

        ไทยโพสต์ * ทีเอ็มบีจับมือ บลจ.ยูโอบี เสนอขายกองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ ลุยตลาดตราสารหนี้สหรัฐ
น.ส.กมลวรรณ อิ่มฤทัยเจริญโชค เจ้าหน้าที่บริหารผลิต ภัณฑ์การลงทุน ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า การลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบ แทนสูง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ เนื่องจากผลตอบแทนของกองทุนจะขึ้นอยู่กับรายได้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล มากกว่าผลตอบแทนด้านราคา ซึ่งตอบโจทย์ได้ดีในสภาวะแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐ
โดยตั้งแต่ต้นปี 2557 ตรา สารหนี้ผลตอบแทนสูงในสหรัฐ เป็นตลาดตราสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับความสนใจจากนักลง ทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้ปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว
ล่าสุด ทีเอ็มบี ร่วมกับ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) เปิดเสนอขายกองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ (USHY) ผ่านทีเอ็มบีทุกสาขา ถึงวันที่ 9 พ.ค.2557 มูลค่าขั้นต่ำการสั่งซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก 510,000 บาท และซื้อครั้งถัดไป 10,000 บาท และสามารถร่วมโปรโมชั่นพิเศษ โดยทุกเงินลงทุน 100,000 บาท จะได้รับเงินคืน 100 บาท เมื่อเงินลงทุนสะสมรวมตั้งแต่ 5 ล้านบาท จะได้รับเงินคืนเพิ่มเป็น 2 เท่า คือ 200 บาท ต่อเงินลงทุนสะสมทุก 100,000 บาท รวมรับเงินคืนสูงสุดรายละ 100,000 บาท เข้าบัญชีทีเอ็มบี เงินฝากไม่ประจำ
ทั้งนี้ กองทุนหลักมีนโย บายการเลือกตราสารหนี้ในสหรัฐ ที่เน้นการประเมินพื้นฐานของบริษัทเป็นหลัก และเน้นการบริหารความเสี่ยงของการลงทุนในแต่ละตราสาร รวมทั้งให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน.

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/tpd/1890367

วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ทีเอ็มบี เสนอโอกาสรับผลตอบแทนใกล้เคียงหุ้น แต่ผันผวนต่ำกว่า กับกองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ (USHY)



ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2557 17:30:55 น.
กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--ธนาคารทหารไทย

          ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับ บลจ.ยูโอบี เสนอกองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ (USHY) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนใกล้เคียงการลงทุนในหุ้น แต่มีความผันผวนน้อยกว่า ซึ่งจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันนี้ – 9 พ.ค. 57 พร้อมแคมเปญพิเศษรับเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝากทุกยอดเงินลงทุน 100,000 บาท
         นางสาวกมลวรรณ อิ่มฤทัยเจริญโชค เจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์การลงทุน ทีเอ็มบี กล่าวว่า “การลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ เนื่องจากผลตอบแทนของกองทุนจะขึ้นอยู่กับรายได้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล (Credit spread) มากกว่าผลตอบแทนด้านราคา ซึ่งตอบโจทย์ได้ดีในสภาวะแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐฯ โดยตั้งแต่ต้นปี 2557 ตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงในสหรัฐฯ เป็นตลาดตราสารที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้ปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาวของตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงในสหรัฐฯ และจากปัจจัยที่ได้กล่าวมาข้างต้น ทีเอ็มบี จึงร่วมมือกับ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) เปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ (USHY) ผ่านทีเอ็มบี ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. – 9 พ.ค. 57 มูลค่าขั้นต่ำการสั่งซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก 510,000 บาท และการสั่งซื้อครั้งถัดไป 10,000 บาท ทั้งยังสามารถร่วมโปรโมชั่นพิเศษที่ตอบแทนนักลงทุน โดยทุกๆ เงินลงทุน 100,000 บาท จะได้รับเงินคืน (Cash back) จำนวน 100 บาท และเมื่อเงินลงทุนสะสมรวมตั้งแต่ 5 ล้านบาท ผู้ลงทุนจะได้รับเงินคืนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า คือ 200 บาท ต่อเงินลงทุนสะสมทุกๆ 100,000 บาท รวมรับเงินคืนสูงสุดถึงท่านละ 100,000 บาท บาท เข้าบัญชี ทีเอ็มบี เงินฝากไม่ประจำ”
กองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ นี้ จะลงทุนผ่านกองทุนหลักคือ AXA World Funds US High Yield Bonds USD Fund จัดตั้งและบริหารจัดการโดย AXA Funds Management SA (Luxembourg) ซึ่งมอบหมายให้ AXA Investment Managers บริหารกองทุน ทั้งนี้ กองทุนหลักมีนโยบายการเลือกตราสารหนี้ในสหรัฐฯ ที่เน้นการประเมินพื้นฐานของบริษัทเป็นหลัก และเน้นการบริหารความเสี่ยงของการลงทุนในแต่ละตราสาร รวมทั้งให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวม ซึ่งปัจจุบันได้ลงทุนกระจายไปกว่า 300 ตราสาร ล่าสุดกองทุนหลักมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นจนได้รับการจัดอันดับ 4 ดาว (Overall Rating) จากมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ 28 กุมภาพันธ์ 2557) และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 17.32% ต่อปี
ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ (USHY) สามารถติดต่อซื้อหน่วยลงทุนหรือและรับหนังสือชี้ชวน และโครงการ และข้อผูกพันได้ที่ ทีเอ็มบี ทุกสาขาทั่วประเทศ
คำเตือน : กองทุนนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนจากสำนักงาน ก.ล.ต. ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล นโยบายการลงทุน ความเสี่ยงและผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนการตัดสินใจลงทุน กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในต่างประเทศ ถึงแม้ว่ากองทุนอาจป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม แต่เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/prg/1889283

TMB จับมือ บลจ.ยูโอบี ออกกองทุนตราสารหนี้สหรัฐชูผลตอบแทนสูง


ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2557 15:06:35 น.


          ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับ บลจ.ยูโอบี เสนอกองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ (USHY) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนใกล้เคียงการลงทุนในหุ้น แต่มีความผันผวนน้อยกว่า ซึ่งจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันนี้ – 9 พ.ค. 57 พร้อมแคมเปญพิเศษรับเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝากทุกยอดเงินลงทุน 100,000 บาท มูลค่าขั้นต่ำการสั่งซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก 510,000 บาท และการสั่งซื้อครั้งถัดไป 10,000 บาท
          นางสาวกมลวรรณ  อิ่มฤทัยเจริญโชค เจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์การลงทุน TMB กล่าวว่า การลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ เนื่องจากผลตอบแทนของกองทุนจะขึ้นอยู่กับรายได้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล (Credit spread) มากกว่าผลตอบแทนด้านราคา ซึ่งตอบโจทย์ได้ดีในสภาวะแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐฯ
ตั้งแต่ต้นปี 2557 ตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงในสหรัฐฯ เป็นตลาดตราสารที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้ปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาวของตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงในสหรัฐฯ
กองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ นี้  จะลงทุนผ่านกองทุนหลักคือ AXA World Funds US High Yield Bonds USD Fund จัดตั้งและบริหารจัดการโดย AXA Funds Management SA (Luxembourg) ซึ่งมอบหมายให้ AXA Investment Managers บริหารกองทุน ทั้งนี้ กองทุนหลักมีนโยบายการเลือกตราสารหนี้ในสหรัฐฯ ที่เน้นการประเมินพื้นฐานของบริษัทเป็นหลัก และเน้นการบริหารความเสี่ยงของการลงทุนในแต่ละตราสาร รวมทั้งให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวม ซึ่งปัจจุบันได้ลงทุนกระจายไปกว่า 300 ตราสาร ล่าสุดกองทุนหลักมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นจนได้รับการจัดอันดับ 4 ดาว (Overall Rating) จากมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ 28 กุมภาพันธ์ 2557) และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 17.32% ต่อปี

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/iq05/1889172

TMBจ่อหั่นจีดีพีต่ำ2% เอสเอ็มอีขาดเชื่อมั่น ธกส.ปิ๊งออกรูดปรื๊ด


        
 ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- เสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2557 00:00:36 น.

          ไทยโพสต์ * TMB เล็งหั่นจีดีพี ต่ำกว่า 2% เหตุเศรษฐกิจไตร มาส 1 ไม่ขยายตัว เผยดัชนีเชื่อ มั่นเอสเอ็มอียังต่ำ ธุรกิจไม่มั่นใจ ธ.ก.ส.จ่อออกรูดปรื๊ด ให้ลูกค้าใช้รูดทั้งในและต่างประเทศ
นายเบญจรงค์ สุวรรณ คีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทยหรือ TMB เปิดเผยว่า ศูนย์ฯ อยู่ระหว่างพิจารณาปรับประ มาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งคาดว่าจะต่ำกว่า 2% ลดลงจากที่เคยคาดไว้อยู่ที่ 2.9% เนื่องจากช่วงไตรมาส 1/2557 เศรษฐกิจไม่ขยายตัวมากนัก แต่เชื่อว่าในไตรมาส 2/2557 จะเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะภาคการส่งออกและภาคอุตสาหกรรม และหากสถาน การณ์ทางการเมืองไม่บานปลาย อาจจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 3/2557 นี้
            สำหรับผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ช่วงไตรมาส 1/2557 พบว่าความเชื่อมั่นอยู่ที่ 37.6 จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 40.9 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผู้ประกอบการขาดความมั่นใจด้านรายได้ของธุรกิจ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 51.1 ลดลงจากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 58.4 เนื่องจากผู้ประกอบการมองว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า สภาพทางเศรษฐกิจยังชะลอตัว และอาจมีต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
ปัจจัยกดดันหลักที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความกังวล ยังคงเป็นเรื่องของปัญหาการเมือง รวมถึงสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการ เกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธนาคารอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางจัดทำบัตร เครดิต ธ.ก.ส. เพื่อให้ลูกค้าของ ธนาคารนำไปใช้บริการรูดซื้อสินค้าในประเทศ และต่างประ เทศเช่นเดียวกับบัตรเครดิตทั่วไปของสถาบันการเงินอื่นๆ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านกฎหมายของธนาคารแห่งประ เทศไทย (ธปท.) ทุกประการ
ทั้งนี้ จากการหารือในเบื้อง ต้น ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ต้องเป็นกลุ่ม ลูกค้าที่มีรายได้สม่ำเสมอทุกเดือน มีรายได้เป็นหลักแหล่ง รวมถึงจะพิจารณาจากลูกค้าที่มีการศึกษา มีความรู้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจะทำให้สามารถยกระดับ ของเกษตรกรได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในแต่ละรายอีกครั้ง
เบื้องต้น ได้เจรจากับเครดิตบูโรที่จะส่งฐานข้อมูลลูกค้าเกษตรกรเข้าตรวจสอบในระบบ โดยจะแบ่งทำเป็น 3 เฟส ระยะเวลา 3 ปี เฟสแรกจะส่งเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ที่มีเงินกู้มากกว่า 1 ล้านบาท จำนวน 1 หมื่นรายก่อน เนื่องจากกลุ่มนี้มีรายได้เฉลี่ยต่อปีมากกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งสูงและค่อนข้างมั่นคง.


อ้างอิง :  http://www.ryt9.com/s/tpd/1889339