วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ทีเอ็มบี เสนอโอกาสรับผลตอบแทนใกล้เคียงหุ้น แต่ผันผวนต่ำกว่า กับกองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ (USHY)



ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2557 17:30:55 น.
กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--ธนาคารทหารไทย

          ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับ บลจ.ยูโอบี เสนอกองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ (USHY) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนใกล้เคียงการลงทุนในหุ้น แต่มีความผันผวนน้อยกว่า ซึ่งจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันนี้ – 9 พ.ค. 57 พร้อมแคมเปญพิเศษรับเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝากทุกยอดเงินลงทุน 100,000 บาท
         นางสาวกมลวรรณ อิ่มฤทัยเจริญโชค เจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์การลงทุน ทีเอ็มบี กล่าวว่า “การลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ เนื่องจากผลตอบแทนของกองทุนจะขึ้นอยู่กับรายได้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล (Credit spread) มากกว่าผลตอบแทนด้านราคา ซึ่งตอบโจทย์ได้ดีในสภาวะแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐฯ โดยตั้งแต่ต้นปี 2557 ตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงในสหรัฐฯ เป็นตลาดตราสารที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้ปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาวของตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงในสหรัฐฯ และจากปัจจัยที่ได้กล่าวมาข้างต้น ทีเอ็มบี จึงร่วมมือกับ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) เปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ (USHY) ผ่านทีเอ็มบี ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. – 9 พ.ค. 57 มูลค่าขั้นต่ำการสั่งซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก 510,000 บาท และการสั่งซื้อครั้งถัดไป 10,000 บาท ทั้งยังสามารถร่วมโปรโมชั่นพิเศษที่ตอบแทนนักลงทุน โดยทุกๆ เงินลงทุน 100,000 บาท จะได้รับเงินคืน (Cash back) จำนวน 100 บาท และเมื่อเงินลงทุนสะสมรวมตั้งแต่ 5 ล้านบาท ผู้ลงทุนจะได้รับเงินคืนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า คือ 200 บาท ต่อเงินลงทุนสะสมทุกๆ 100,000 บาท รวมรับเงินคืนสูงสุดถึงท่านละ 100,000 บาท บาท เข้าบัญชี ทีเอ็มบี เงินฝากไม่ประจำ”
กองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ นี้ จะลงทุนผ่านกองทุนหลักคือ AXA World Funds US High Yield Bonds USD Fund จัดตั้งและบริหารจัดการโดย AXA Funds Management SA (Luxembourg) ซึ่งมอบหมายให้ AXA Investment Managers บริหารกองทุน ทั้งนี้ กองทุนหลักมีนโยบายการเลือกตราสารหนี้ในสหรัฐฯ ที่เน้นการประเมินพื้นฐานของบริษัทเป็นหลัก และเน้นการบริหารความเสี่ยงของการลงทุนในแต่ละตราสาร รวมทั้งให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวม ซึ่งปัจจุบันได้ลงทุนกระจายไปกว่า 300 ตราสาร ล่าสุดกองทุนหลักมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นจนได้รับการจัดอันดับ 4 ดาว (Overall Rating) จากมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ 28 กุมภาพันธ์ 2557) และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 17.32% ต่อปี
ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ (USHY) สามารถติดต่อซื้อหน่วยลงทุนหรือและรับหนังสือชี้ชวน และโครงการ และข้อผูกพันได้ที่ ทีเอ็มบี ทุกสาขาทั่วประเทศ
คำเตือน : กองทุนนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนจากสำนักงาน ก.ล.ต. ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล นโยบายการลงทุน ความเสี่ยงและผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนการตัดสินใจลงทุน กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในต่างประเทศ ถึงแม้ว่ากองทุนอาจป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม แต่เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/prg/1889283

TMB จับมือ บลจ.ยูโอบี ออกกองทุนตราสารหนี้สหรัฐชูผลตอบแทนสูง


ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2557 15:06:35 น.


          ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับ บลจ.ยูโอบี เสนอกองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ (USHY) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนใกล้เคียงการลงทุนในหุ้น แต่มีความผันผวนน้อยกว่า ซึ่งจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันนี้ – 9 พ.ค. 57 พร้อมแคมเปญพิเศษรับเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝากทุกยอดเงินลงทุน 100,000 บาท มูลค่าขั้นต่ำการสั่งซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก 510,000 บาท และการสั่งซื้อครั้งถัดไป 10,000 บาท
          นางสาวกมลวรรณ  อิ่มฤทัยเจริญโชค เจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์การลงทุน TMB กล่าวว่า การลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ เนื่องจากผลตอบแทนของกองทุนจะขึ้นอยู่กับรายได้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล (Credit spread) มากกว่าผลตอบแทนด้านราคา ซึ่งตอบโจทย์ได้ดีในสภาวะแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐฯ
ตั้งแต่ต้นปี 2557 ตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงในสหรัฐฯ เป็นตลาดตราสารที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้ปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาวของตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงในสหรัฐฯ
กองทุนเปิด ยูเอส ไฮ ยิลด์ ฟันด์ นี้  จะลงทุนผ่านกองทุนหลักคือ AXA World Funds US High Yield Bonds USD Fund จัดตั้งและบริหารจัดการโดย AXA Funds Management SA (Luxembourg) ซึ่งมอบหมายให้ AXA Investment Managers บริหารกองทุน ทั้งนี้ กองทุนหลักมีนโยบายการเลือกตราสารหนี้ในสหรัฐฯ ที่เน้นการประเมินพื้นฐานของบริษัทเป็นหลัก และเน้นการบริหารความเสี่ยงของการลงทุนในแต่ละตราสาร รวมทั้งให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวม ซึ่งปัจจุบันได้ลงทุนกระจายไปกว่า 300 ตราสาร ล่าสุดกองทุนหลักมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นจนได้รับการจัดอันดับ 4 ดาว (Overall Rating) จากมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ 28 กุมภาพันธ์ 2557) และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 17.32% ต่อปี

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/iq05/1889172

TMBจ่อหั่นจีดีพีต่ำ2% เอสเอ็มอีขาดเชื่อมั่น ธกส.ปิ๊งออกรูดปรื๊ด


        
 ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- เสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2557 00:00:36 น.

          ไทยโพสต์ * TMB เล็งหั่นจีดีพี ต่ำกว่า 2% เหตุเศรษฐกิจไตร มาส 1 ไม่ขยายตัว เผยดัชนีเชื่อ มั่นเอสเอ็มอียังต่ำ ธุรกิจไม่มั่นใจ ธ.ก.ส.จ่อออกรูดปรื๊ด ให้ลูกค้าใช้รูดทั้งในและต่างประเทศ
นายเบญจรงค์ สุวรรณ คีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทยหรือ TMB เปิดเผยว่า ศูนย์ฯ อยู่ระหว่างพิจารณาปรับประ มาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งคาดว่าจะต่ำกว่า 2% ลดลงจากที่เคยคาดไว้อยู่ที่ 2.9% เนื่องจากช่วงไตรมาส 1/2557 เศรษฐกิจไม่ขยายตัวมากนัก แต่เชื่อว่าในไตรมาส 2/2557 จะเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะภาคการส่งออกและภาคอุตสาหกรรม และหากสถาน การณ์ทางการเมืองไม่บานปลาย อาจจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 3/2557 นี้
            สำหรับผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ช่วงไตรมาส 1/2557 พบว่าความเชื่อมั่นอยู่ที่ 37.6 จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 40.9 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผู้ประกอบการขาดความมั่นใจด้านรายได้ของธุรกิจ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 51.1 ลดลงจากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 58.4 เนื่องจากผู้ประกอบการมองว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า สภาพทางเศรษฐกิจยังชะลอตัว และอาจมีต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
ปัจจัยกดดันหลักที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความกังวล ยังคงเป็นเรื่องของปัญหาการเมือง รวมถึงสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการ เกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธนาคารอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางจัดทำบัตร เครดิต ธ.ก.ส. เพื่อให้ลูกค้าของ ธนาคารนำไปใช้บริการรูดซื้อสินค้าในประเทศ และต่างประ เทศเช่นเดียวกับบัตรเครดิตทั่วไปของสถาบันการเงินอื่นๆ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านกฎหมายของธนาคารแห่งประ เทศไทย (ธปท.) ทุกประการ
ทั้งนี้ จากการหารือในเบื้อง ต้น ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ต้องเป็นกลุ่ม ลูกค้าที่มีรายได้สม่ำเสมอทุกเดือน มีรายได้เป็นหลักแหล่ง รวมถึงจะพิจารณาจากลูกค้าที่มีการศึกษา มีความรู้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจะทำให้สามารถยกระดับ ของเกษตรกรได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในแต่ละรายอีกครั้ง
เบื้องต้น ได้เจรจากับเครดิตบูโรที่จะส่งฐานข้อมูลลูกค้าเกษตรกรเข้าตรวจสอบในระบบ โดยจะแบ่งทำเป็น 3 เฟส ระยะเวลา 3 ปี เฟสแรกจะส่งเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ที่มีเงินกู้มากกว่า 1 ล้านบาท จำนวน 1 หมื่นรายก่อน เนื่องจากกลุ่มนี้มีรายได้เฉลี่ยต่อปีมากกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งสูงและค่อนข้างมั่นคง.


อ้างอิง :  http://www.ryt9.com/s/tpd/1889339